สภาพแวดล้อมทางธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้นในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น การขยายตลาด และความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้น สิ่งนี้เพิ่มความกดดันให้กับบริษัทในการลดต้นทุนทั้งหมดในโซ่อุปทาน ลดระยะเวลาการผลิต ลดคลังสินค้าอย่างเดิมและเพิ่มความหลากหลายของสินค้า

ทำให้สามารถกำหนดวันส่งมอบที่มีความชัดเจนและเป็นไปได้มากขึ้น และเสริมสร้างความเป็นธรรมในการให้บริการลูกค้า ปรับปรุงคุณภาพ และประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ถึงเวลาที่เราจะมองเห็นอนาคตและดูว่าซอฟต์แวร์ ERP และเทคโนโลยีระดับองค์กรจะมีอะไรบ้างในปี 2568 แนวโน้มด้านไอทีและเอไอที่เราคาดหวังในปี 2568 จะช่วยพัฒนากระแสการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่จะช่วยในการบิหารจัดการองค์กรกับภาวะเศรฐกิจในปัจจุบันเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิต, การตลาด, การเงินการธนาคาร, สินค้าคงคลังและอื่นๆมีกหลายด้าน และการทำให้มีส่วนร่วมกันของทุกคนในองค์กรที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นและถาวรของความเป็นจริงขององค์กรต่าง ๆ ยังคงปรับตัวเข้ากับมาตรฐานการจัดการธุรกิจใหม่ โดยมุ่งมั่นเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจที่เข้มงวดและกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง

เพื่อให้มีความเกี่ยวข้องและแข่งขันได้ในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องพึ่งพาระบบ ERP มากขึ้นในการจัดการการดำเนินงาน ทุกวันนี้ องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการการดำเนินธุรกิจทั้งหมดอย่างรวดเร็วเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์

ระบบ ERP ในปัจุบันยังคงเพิ่มความสามารถใหม่และคุณสมบัติการตรวจสอบย้อนกลับได้สูงซึ่งสนับสนุนการตัดสินใจเชิงรุก ระบบเทคโนโลยีสำหรับองค์กรที่รองรับอนาคตมุ่งมั่นที่จะรวบรวมคู่ค้าทั้งหมดให้เป็นเครือข่ายที่เป็นหนึ่งเดียว และสร้างระบบนิเวศแบบรวมที่สนับสนุนการสื่อสารแบบ end-to-end ที่มีความคล่องตัวกับซัพพลายเออร์หลายชั้นและผู้บริโภคปลายทาง โดยจับคู่อุปทานกับความต้องการแบบเรียลไทม์

ธุรกิจทุกวันนี้กำลังได้รับการประเมินผลกำไรทางการเงินและผลตอบแทนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ระบบ ERP ในปัจจุบันจึงได้มีคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น LMS (Learning Management System) คือ ซอฟแวร์ใช้จัดการ สื่อการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีความสามารถในการจัดการการเรียน การสอนได้ทั้งหมด เพื่อการพัฒนาบุคคากรเป็นต้น

ระบบ ERP เหมาะกับธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ต้องการการจัดการแบบครบวงจรและมีหลายกระบวนการที่ต้องทำงานร่วมกัน โดยทั่วไป ERP สามารถใช้ได้กับหลายประเภทของธุรกิจ เช่น
1. ธุรกิจการผลิต (Manufacturing)
วางแผนการผลิต (MRP)
ควบคุมสินค้าคงคลัง
จัดการซัพพลายเชน
ควบคุมต้นทุนการผลิต

2. ธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ (Retail & eCommerce)
ระบบ POS (Point of Sale)
การจัดการสินค้าคงคลังและคลังสินค้า
การเชื่อมต่อกับช่องทางการขายออนไลน์
การวิเคราะห์ยอดขายและพฤติกรรมลูกค้า

3. ธุรกิจบริการ (Service Industry)
การจัดการโครงการ (Project Management)
ระบบบัญชีและการออกใบแจ้งหนี้
การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)
การจัดตารางงานและทรัพยากร

4. ธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (Logistics & Supply Chain)
การจัดการคำสั่งซื้อ
ติดตามและขนส่งสินค้า
คลังสินค้าและการกระจายสินค้า
บริหารซัพพลายเออร์และคู่ค้า

5. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Real Estate & Construction)
การบริหารโครงการก่อสร้าง
การวางแผนงบประมาณและต้นทุน
การจัดซื้อและบริหารซัพพลายเออร์
การจัดการทรัพย์สินและสัญญาเช่า

6. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)
การจัดการวัตถุดิบและต้นทุน
การบริหารร้านอาหารและครัวกลาง
ระบบ POS และการรับออเดอร์
ควบคุมมาตรฐานสุขอนามัยและการผลิต

7. ธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare)
ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EMR)
การนัดหมายและบริหารผู้ป่วย
การควบคุมสต็อกยาและเวชภัณฑ์
การจัดการบัญชีและการเรียกเก็บเงิน